เกาะหลีเป๊ะ อัญมณีเม็ดงามแห่งท้องทะเลอันดามัน ที่หลายคนใฝ่ฝันอยากจะไปเยือน ด้วยมนต์เสน่ห์ ของน้ำทะเลสีมรกตที่ใสราวคริสตัล หาดทรายขาวละเอียดดุจแป้ง และโลกใต้ทะเลที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา เกาะเล็กๆ แห่งนี้ในจังหวัดสตูล ไม่ได้มีดีแค่ความสวยงามทางธรรมชาติ แต่ยังเต็มไปด้วยกิจกรรมหลากหลายรูปแบบที่พร้อมมอบประสบการณ์การท่องเที่ยวที่น่าจดจำให้กับนักเดินทางทุกสไตล์ ตั้งแต่ผู้ที่ชื่นชอบการพักผ่อนสบายๆ ไปจนถึงผู้ที่หลงใหลในการผจญภัยใต้ท้องทะเล สำรวจกิจกรรมห้ามพลาดเมื่อมาถึงเกาะหลีเป๊ะ รับรองว่าคุณจะได้ใช้เวลาบนเกาะแห่งนี้อย่างคุ้มค่าในทุกนาที
ทำไมเกาะหลีเป๊ะถึงเป็นจุดหมายยอดนิยมของนักท่องเที่ยว
เกาะหลีเป๊ะ เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติทางทะเลหมู่เกาะตะรุเตา ซึ่งได้รับการยอมรับในระดับสากลถึงความงดงามและความสมบูรณ์ของธรรมชาติ ที่นี่โดดเด่นด้วยน้ำทะเลที่ใสมากๆ ในช่วงฤดูท่องเที่ยว คุณสามารถมองเห็นพื้นทรายและฝูงปลาได้จากบนเรือ หรือแม้กระทั่งจากชายหาด ชายหาดหลักบนเกาะอย่างหาดพัทยา (หาดบันดาหยา) หาดซันไรส์ และหาดซันเซ็ต ล้วนมีความสวยงามและบรรยากาศที่แตกต่างกัน มอบทางเลือกที่หลากหลายให้นักท่องเที่ยวได้เลือกพักผ่อนตามความต้องการ นอกจากนี้ ความสมบูรณ์ของแนวปะการังรอบเกาะและหมู่เกาะใกล้เคียง ยังเป็นสวรรค์ของนักดำน้ำ ทำให้หลีเป๊ะกลายเป็นหนึ่งในแหล่งดำน้ำยอดนิยมที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย ด้วยส่วนผสมที่ลงตัวของธรรมชาติที่บริสุทธิ์ สิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน และบรรยากาศที่เป็นกันเอง ทำให้เกาะหลีเป๊ะครองใจนักท่องเที่ยวมาอย่างยาวนาน
10 กิจกรรมห้ามพลาดเมื่อมาเที่ยวหลีเป๊ะ
เมื่อเท้าแตะพื้นทรายของเกาะหลีเป๊ะแล้ว อย่าปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยเปล่าประโยชน์ มาเช็คลิสต์ 10 กิจกรรมสุดฟินที่คุณต้องไม่พลาด
1. ดำน้ำชมปะการังน้ำตื้นรอบเกาะ สัมผัสโลกใต้ทะเลง่ายๆ
กิจกรรมยอดฮิตตลอดกาลที่ไม่ว่าใครมาหลีเป๊ะก็ต้องลองคือการดำน้ำตื้น (Snorkeling) ด้วยความใสของน้ำทะเล ทำให้การดำน้ำตื้นเป็นเรื่องง่ายและสนุก คุณสามารถเช่าอุปกรณ์ดำน้ำได้ทั่วไปบนเกาะ หรือจะซื้อเป็นแพ็คเกจทัวร์ดำน้ำ 1 วัน ซึ่งมักจะพาไปยังจุดดำน้ำตื้นยอดนิยมรอบๆ เกาะหลีเป๊ะและเกาะใกล้เคียง เช่น ร่องน้ำจาบังที่ขึ้นชื่อเรื่องปะการังอ่อนหลากสีสัน เกาะยางที่มีปะการังแข็งสวยงาม หรือบริเวณหน้าหาดบางแห่งของเกาะอาดังและเกาะราวี คุณจะได้แหวกว่ายท่ามกลางฝูงปลาหลากชนิดและชื่นชมความงดงามของแนวปะการังหลากสีสันได้อย่างใกล้ชิด
2. ดำน้ำลึกสัมผัสโลกใต้น้ำแบบใกล้ชิด สำหรับนักสำรวจตัวจริง
สำหรับผู้ที่มีใบอนุญาตดำน้ำลึก (Scuba Diving) หรือผู้ที่สนใจอยากลอง Discovery Dive เกาะหลีเป๊ะมีศูนย์ดำน้ำหลายแห่งที่ให้บริการพาไปดำน้ำตามจุดดำน้ำลึกที่มีชื่อเสียง ไม่ว่าจะเป็น กองหินแปดไมล์ ซึ่งเป็นแหล่งรวมของสัตว์ทะเลขนาดใหญ่ เช่น ฉลามวาฬ (หากโชคดี) ปลากระเบนราหู หรือปะการังขนาดใหญ่และสมบูรณ์ นอกจากนี้ยังมีจุดดำน้ำอื่นๆ ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพสูง การได้ลงไปสัมผัสโลกใต้น้ำในความลึกที่มากขึ้น จะเปิดประสบการณ์และความประทับใจที่แตกต่างออกไป
3. พายเรือคายัครอบเกาะ ชมวิวชายฝั่งในมุมที่ต่างออกไป
การเช่าเรือคายัคมาพายเล่นเป็นกิจกรรมที่ให้ความเป็นอิสระและได้ใกล้ชิดธรรมชาติอย่างเต็มที่ คุณสามารถเช่าได้ตามชายหาดหลักต่างๆ แล้วออกไปพายเล่นสำรวจชายฝั่งของเกาะหลีเป๊ะ พายจากหาดพัทยาไปยังหาดซันไรส์ หรือพายเลียบไปตามแนวหาดเพื่อชมวิวเกาะจากในทะเล เป็นกิจกรรมที่ได้ออกกำลังกาย ได้ชมทัศนียภาพที่สวยงาม และอาจได้พบกับมุมลับๆ ที่สวยงามของเกาะอีกด้วย
4. เดินเล่นช้อปปิ้งและหาของอร่อยที่ถนนคนเดินหลีเป๊ะ (Walking Street)
เมื่อพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า ถนนคนเดินหลีเป๊ะที่ตั้งอยู่ระหว่างหาดพัทยาและหาดซันไรส์จะกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ที่นี่คือศูนย์กลางของเกาะในยามค่ำคืน เต็มไปด้วยร้านอาหารทะเลสดๆ ร้านอาหารนานาชาติ ร้านค้าขายของที่ระลึก ร้านเสื้อผ้า ร้านขายอุปกรณ์ดำน้ำ บริษัททัวร์ และบาร์นั่งชิลล์ คุณสามารถใช้เวลาเดินเล่นเพลินๆ หาของอร่อยทาน นั่งฟังดนตรีสด หรือเลือกซื้อของฝาก เป็นบรรยากาศที่คึกคักแต่ก็ยังคงไว้ซึ่งความสบายๆ ตามสไตล์เกาะใต้
5. นั่งเรือชมพระอาทิตย์ตกกลางทะเล สร้างความทรงจำสุดโรแมนติก
ไม่มีอะไรจะโรแมนติกไปกว่าการได้นั่งเรือหางยาวออกไปกลางทะเลเพื่อชมความงดงามของพระอาทิตย์อัสดง แสงสีส้ม สีชมพู สีม่วง ที่สาดส่องไปทั่วท้องฟ้าและผืนน้ำทะเล สร้างบรรยากาศที่สวยงามจับใจ คุณสามารถเช่าเรือหางยาวเหมาลำ หรือซื้อแพ็คเกจทัวร์ชมพระอาทิตย์ตก ซึ่งมักจะพาไปยังบริเวณที่เห็นวิวพระอาทิตย์ตกได้ชัดเจนที่สุด เป็นช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนและดื่มด่ำกับความงามของธรรมชาติอย่างแท้จริง
6. ปีนเขาชมวิวเกาะหลีเป๊ะมุมสูง ณ ผาชะโด เกาะอาดัง
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการผจญภัยเล็กๆ น้อยๆ สามารถนั่งเรือหางยาวจากหลีเป๊ะไปยังเกาะอาดัง ซึ่งอยู่ไม่ไกลกันได้ ที่เกาะอาดังมีจุดชมวิว “ผาชะโด” ที่ต้องใช้เวลาเดินเท้าปีนขึ้นไปประมาณ 30-45 นาที เส้นทางอาจมีความชันและต้องใช้ความระมัดระวัง แต่เมื่อขึ้นไปถึงแล้ว คุณจะได้เห็นภาพมุมสูงของเกาะหลีเป๊ะที่ทอดยาวเคียงคู่กับน้ำทะเลสีฟ้าใสสุดลูกหูลูกตา เป็นวิวหลักล้านที่คุ้มค่ากับการเดินทางไปเยือน
7. ถ่ายรูปกับชายหาดสวยติดอันดับของไทย เก็บภาพประทับใจ
เกาะหลีเป๊ะมีชายหาดที่มีชื่อเสียงระดับโลกอยู่หลายแห่ง ซึ่งแต่ละหาดก็มีเอกลักษณ์และความสวยงามที่แตกต่างกัน
- หาดพัทยา: เป็นหาดหลักที่มีความคึกคัก มีร้านอาหาร ที่พัก และท่าเรือหลักตั้งอยู่ น้ำทะเลบริเวณนี้ใสและทรายขาวละเอียด
- หาดซันไรส์ (หาดบันดาหยา): หาดที่เหมาะกับการชมพระอาทิตย์ขึ้นอย่างยิ่ง มีแนวปะการังน้ำตื้นอยู่ใกล้ฝั่ง น้ำทะเลใสราวคริสตัลและทรายขาวเนียนละเอียด เป็นหาดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดแห่งหนึ่ง
- หาดซันเซ็ต: เป็นหาดที่เงียบสงบกว่าหาดอื่น มีโขดหินและต้นไม้ที่ให้บรรยากาศเป็นธรรมชาติ เหมาะกับการมานั่งพักผ่อนและชมพระอาทิตย์ตกดินโดยเฉพาะ
อย่าลืมใช้เวลาเดินเล่น ถ่ายรูป และเก็บภาพความประทับใจกับความงามของชายหาดเหล่านี้
8. แวะชิมอาหารทะเลสดๆ จากชาวบ้าน ลิ้มรสความอร่อยแห่งท้องทะเล
หนึ่งในไฮไลท์ของการมาเที่ยวทะเลคือการได้ทานอาหารทะเลสดๆ บนเกาะหลีเป๊ะ คุณสามารถหาอาหารทะเลสดๆ ได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นตามร้านอาหารริมหาด บนถนนคนเดิน หรือแม้แต่ซื้อจากชาวบ้านแล้วให้ร้านอาหารปรุงให้ คุณจะได้ลิ้มลองเมนูอาหารทะเลที่หลากหลาย ปรุงด้วยรสชาติจัดจ้านแบบปักษ์ใต้ หรือจะปิ้งย่างซีฟู้ดสดๆ ก็อร่อยไม่แพ้กัน
9. พักผ่อนในรีสอร์ทหรูริมทะเล ปล่อยใจไปกับธรรมชาติ
เกาะหลีเป๊ะมีตัวเลือกที่พักที่หลากหลาย ตั้งแต่บังกะโลราคาประหยัดไปจนถึงรีสอร์ทหรูระดับ 5 ดาว การเลือกพักในรีสอร์ทติดริมทะเล จะช่วยให้คุณได้ใช้เวลาพักผ่อนอย่างเต็มที่ ตื่นเช้ามาเดินเล่นริมหาด รับลมทะเล หรือนอนฟังเสียงคลื่นจากระเบียงห้อง เป็นการชาร์จพลังที่ยอดเยี่ยมท่ามกลางบรรยากาศที่เป็นส่วนตัว
10. ชมธรรมชาติที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา เยือนเกาะใกล้เคียง
การมาเที่ยวหลีเป๊ะคือการมาเยือนส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา ซึ่งประกอบไปด้วยหมู่เกาะน้อยใหญ่ที่สวยงาม การซื้อทัวร์ดำน้ำแบบ One Day Trip ซึ่งมักจะพาไปตามเกาะต่างๆ ที่อยู่ในเขตอุทยานฯ เช่น เกาะหินงามที่มีก้อนหินสีดำกลมมนสวยงาม เกาะยางที่มีปะการังที่สมบูรณ์ เกาะอาดังที่มีผาชะโด และเกาะราวีที่มีหาดทรายขาวและจุดดำน้ำตื้น เป็นกิจกรรมที่ช่วยให้คุณได้สำรวจความหลากหลายทางธรรมชาติของอุทยานฯ ได้อย่างเต็มที่
เที่ยวหลีเป๊ะช่วงไหนดี? เคล็ดลับเลือกช่วงเวลามาเที่ยวให้โดนใจ
การเลือกช่วงเวลาในการมาเที่ยวหลีเป๊ะเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อประสบการณ์การเดินทางของคุณ ควรพิจารณาจากความต้องการและงบประมาณของคุณ
ฤดูท่องเที่ยว (High Season: พฤศจิกายน – เมษายน)
เป็นช่วงเวลาที่สภาพอากาศดีที่สุด ท้องฟ้าแจ่มใส แดดสวย คลื่นลมสงบมาก น้ำทะเลใสราวคริสตัล เหมาะแก่การดำน้ำและทำกิจกรรมทางน้ำทุกประเภท เรือโดยสารมีให้บริการตามปกติทุกเส้นทาง เป็นช่วงที่เกาะสวยงามที่สุด แต่แลกมาด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวที่หนาแน่น และราคาที่พัก ตั๋วเรือ รวมถึงบริการต่างๆ จะปรับตัวสูงขึ้น หากต้องการเดินทางช่วงนี้ควรรีบจองทุกอย่างล่วงหน้าอย่างน้อย 2-3 เดือน
ฤดูโลว์ซีซั่น (Green Season: พฤษภาคม – ตุลาคม)
เป็นช่วงฤดูฝน แต่ใช่ว่าจะฝนตกตลอดวัน ส่วนใหญ่จะเป็นฝนที่ตกหนักเป็นบางช่วงแล้วหยุด ข้อดีคือเกาะมีความเงียบสงบ นักท่องเที่ยวไม่หนาแน่นเหมือนช่วง High Season ราคาที่พักและบริการต่างๆ ลดลงอย่างมาก ทำให้งบประมาณในการเดินทางประหยัดลงได้เยอะ อย่างไรก็ตาม อาจต้องตรวจสอบสภาพอากาศและรอบเรือโดยสารอย่างใกล้ชิด เนื่องจากสภาพอากาศที่แปรปรวนอาจส่งผลกระทบต่อการเดินทางได้ และธุรกิจบางแห่งบนเกาะอาจปิดให้บริการในช่วงนี้ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการความสงบ และไม่กังวลเรื่องฝนมากนัก
คำแนะนำสำหรับมือใหม่เที่ยวหลีเป๊ะ วางแผนให้พร้อมก่อนออกเดินทาง
สำหรับใครที่ยังไม่เคยมาเที่ยวเกาะหลีเป๊ะ และกำลังวางแผนเดินทาง นี่คือคำแนะนำที่เป็นประโยชน์สำหรับการเตรียมตัว
เตรียมตัวอย่างไรให้พร้อมสำหรับการเดินทางสู่เกาะหลีเป๊ะ
- การเดินทาง: วิธีที่นิยมที่สุดคือการเดินทางมายังอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา จากนั้นนั่งรถตู้หรือรถสองแถวต่อไปยังท่าเรือปากบารา จังหวัดสตูล (ใช้เวลาประมาณ 1.5 – 2 ชั่วโมง) ที่ท่าเรือปากบาราจะมีเรือ Speed Boat หรือเรือเฟอร์รี่ต่อไปยังเกาะหลีเป๊ะ (ใช้เวลาประมาณ 1.5 – 2 ชั่วโมง) ควรตรวจสอบรอบเรือล่วงหน้า
- การจอง: ควรจองตั๋วเครื่องบิน (ถ้าบินมาลงหาดใหญ่) ตั๋วรถ/เรือ และที่พักล่วงหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเดินทางในช่วง High Season หรือช่วงวันหยุดยาว เพราะที่พักดีๆ หรือตั๋วเรืออาจเต็มเร็ว
- เงินสด: แม้จะมีตู้ ATM บนเกาะ แต่บางครั้งอาจใช้งานไม่ได้ หรือมีข้อจำกัดในการกด การเตรียมเงินสดติดตัวไปจำนวนหนึ่งสำหรับการใช้จ่ายค่าอาหาร ค่าเดินทางบนเกาะ หรือซื้อของเล็กๆ น้อยๆ จะสะดวกที่สุด
สิ่งที่ควรนำไปและข้อควรระวังในการเที่ยวหลีเป๊ะ
- เสื้อผ้า: เตรียมชุดว่ายน้ำ เสื้อผ้าสำหรับใส่สบายๆ ในอากาศร้อน และเสื้อคลุมหรือเสื้อกันแดดสำหรับป้องกันแสงแดด
- อุปกรณ์ป้องกันแดด: ครีมกันแดด (เลือกแบบ Reef-Safe เพื่อช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม), หมวก, แว่นกันแดด
- อุปกรณ์ดำน้ำ: หากคุณมีหน้ากากดำน้ำหรือสน็อกเกิ้ลที่ใช้ประจำ สามารถนำไปด้วยได้ หรือจะไปเช่า/ซื้อบนเกาะก็ได้
- รองเท้า: รองเท้าแตะที่เดินสะดวก และรองเท้าที่ใส่สบายสำหรับการเดินเล่น หรือรองเท้าที่เหมาะสำหรับการปีนเขา (หากมีแผนไปเกาะอาดัง)
- ยาสามัญประจำบ้าน: ชุดปฐมพยาบาลเบื้องต้น ยาแก้ปวด ยาแก้แพ้ ยาแก้เมารถ/เมาเรือ (สำหรับคนที่มีอาการ)
- กระบอกน้ำและถุงผ้า: ช่วยลดการใช้พลาสติก ลดปริมาณขยะบนเกาะ
- พาวเวอร์แบงค์: เตรียม Power Bank ไปด้วยเผื่อกรณีไฟดับ หรือต้องการชาร์จแบตเตอรี่ระหว่างอยู่นอกที่พัก
- ข้อควรระวังด้านสิ่งแวดล้อม: เกาะหลีเป๊ะอยู่ในเขตอุทยานฯ การดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมเป็นสิ่งสำคัญมาก ห้ามทิ้งขยะลงทะเลหรือบนชายหาด นำขยะกลับมาทิ้งในที่ที่จัดไว้ ไม่จับหรือเหยียบปะการัง ไม่ให้อาหารปลา และปฏิบัติตามกฎระเบียบของอุทยานฯ อย่างเคร่งครัด
สรุป – เที่ยวหลีเป๊ะให้สุดต้องไม่พลาดกิจกรรมเหล่านี้
เกาะหลีเป๊ะคือหนึ่งในจุดหมายปลายทางในฝันของนักเดินทางหลายคน ด้วยความงามตามธรรมชาติอันบริสุทธิ์และกิจกรรมที่หลากหลายที่ตอบโจทย์ทุกความสนใจ จาก 10 กิจกรรมห้ามพลาดที่เราได้รวบรวมมา ไม่ว่าจะเป็นการดำน้ำตื้น ดำน้ำลึก พายเรือคายัค เดินเล่นบนถนนคนเดิน ชมพระอาทิตย์ตก เยือนจุดชมวิว พักผ่อนริมหาด หรือลิ้มลองอาหารทะเล ทั้งหมดนี้คือประสบการณ์ที่จะทำให้ทริปหลีเป๊ะของคุณเต็มไปด้วยความสุข ความประทับใจ และความทรงจำที่ยากจะลืมเลเลือน หากคุณกำลังมองหาสวรรค์แห่งการพักผ่อนที่มีทั้งความสวยงามและความสนุกสนาน เกาะหลีเป๊ะคือคำตอบที่คุณกำลังมองหาอยู่ วางแผนการเดินทาง เลือกกิจกรรมที่คุณสนใจ แล้วออกไปค้นพบมนต์เสน่ห์ของเกาะหลีเป๊ะด้วยตัวคุณเองได้เลย
