khemtis logo
The Best Proposition
“เกาะหลีเป๊ะ” จุดหมายปลายทางแห่งการพักผ่อน~
แนะนำ “เกาะหลีเป๊ะ” จุดหมายปลายทางแห่งการพักผ่อน~

เที่ยวเกาะหลีเป๊ะที่สวยงามกับ ทัวร์ 3 วัน 2 คืน เต็มที่กับการพักผ่อนที่รีสอร์ทสุดหรู ในปี 2566 ขายดีที่สุด บริการฟรี รถรับส่ง สนามบินหาดใหญ่

Read More »
Khemtis Travel

การเดินทางสู่ เกาะหลีเป๊ะ สถานที่แห่งความงดงาม และการผจญภัยในทะเลอันดามัน

เกาะหลีเป๊ะ สถานที่แห่งความงดงาม และการผจญภัยในทะเลอันดามัน
Share:

เกาะหลีเป๊ะ เป็นเกาะที่ตั้งอยู่กลางทะเลในจังหวัดสตูล อยู่ทางใต้ของเกาะอาดังและห่างจากแผ่นดินของจังหวัดสตูลประมาณ 85 กิโลเมตร เกาะนี้มีชื่อเสียงเนื่องจากผืนดินที่อุดมสมบูรณ์ น้ำใสที่สามารถดื่มได้ ชายหาดที่สวยงาม และทิวทัศน์ที่น่าทึ่งตาตามธรรมชาติ หาดทรายขาวละเอียดของเกาะหลีเป๊ะไม่อยู่ภายใต้เขตอำนาจของอุทยานแห่งชาติตะรุเตา ซึ่งหมายความว่าได้รับการยกเว้นจากกฎหมายของอุทยานแห่งชาติ เมื่อการท่องเที่ยวไปยังเกาะหลีเป๊ะมีจำนวนเพิ่มขึ้น บ้านกาโลจำนวนมากถูกสร้างขึ้นในหมู่บ้านหลักตามแนวชายฝั่งตะวันออกและหาดพัทยาเพื่อตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น

จุดเด่นของเกาะหลีเป๊ะ: สวรรค์ที่มอบความสุขและประสบการณ์ท่องเที่ยวที่หลากหลาย

นอกจากชายหาดที่สวยงาม เกาะหลีเป๊ะยังมีแนวปะการังอยู่ด้านใต้ของเกาะเล็กๆ และอ่าวเล็กๆ น้อยๆ มากมาย ชาวเลจะคอยให้บริการเช่าเรือเพื่อท่องเที่ยวไปยังเกาะรอบๆ ซึ่งเต็มไปด้วยแนวปะการังมากมาย สำหรับการเที่ยวเกาะหลีเป๊ะ แนะนำให้มาในช่วง พฤศจิกายน ถึง กลางเดือน พฤษภาคม เพราะช่วงนี้จะไม่ค่อยมีฝนและพายุ จึงสามารถมาเที่ยวเกาะหลีเป๊ะได้

บนเกาะหลีเป๊ะ ชายหาดหลักๆ และเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวจะมีทั้งหมด 4 หาด:

  1. หาดพัทยา หรือ หาดบันดาหยา: เป็นหาดที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเกาะหลีเป๊ะ เป็นหาดที่สวยที่สุดบนเกาะหลีเป๊ะ หาดพัทยา (หาดบันดาหยา Pattaya Beach) เป็นหาดที่มีความอัศจรรย์มาก เนื่องจากชายหาดมีสีขาว เม็ดทรายนุ่มๆ ตลอดชายหาดจนไปถึงหน้าผา เป็นชายหาดที่สามารถนั่งชิลที่บาร์ รับบรรยากาศความสวยงามของหาดพัทยา พร้อมทั้งชมพระอาทิตย์ลับขอบฟ้ายามเย็น
  2. หาดซันไรซ์ หรือ Sunrise beach: เป็นหาดที่อยู่ทางด้านทิศตะวันออกของเกาะหลีเป๊ะ สมชื่อหาดที่แปลว่า “พระอาทิตย์ขึ้น” เป็นหาดที่มีลมพัดเข้าหาฝั่งเกือบตลอดในช่วงฤดูท่องเที่ยว ทำให้เรือไม่ค่อยมาจอดที่หาดนี้เท่าหาดพัทยา รวมถึงไม่ค่อยมีพวกสถานบันเทิงหรือบาร์สำหรับนั่งชิลล์ เท่าหาดพัทยา หาดนี้จึงค่อนข้างเงียบสงบ
  3. หาดซันเซ็ท หรือ Sunset beach: เป็นหาดที่อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะหลีเป๊ะ หน้าหาดหันไปทางทิศตะวันตก หันหน้าเข้าสู่เกาะอาดัง อยู่ถัดกับหาดซันไรซ์ขึ้นไปทางเหนือ นับเป็นอีกจุดหนึ่งบนเกาะหลีเป๊ะที่สามารถชมพระอาทิตย์ตกได้อย่างสวยงาม หาดซันเซ็ทจะเงียบสงบกว่าหาดซันไรซ์ หาดนี้จึงมีผู้คนน้อยกว่าหาดพัทยาและซันไรซ์ แต่ หาดซันเซ็ท ก็เป็นอีกหนึ่งหาดที่มีรีสอร์ทที่ได้รับความนิยมเข้าพักจากนักท่องเที่ยวไม่แพ้หาดอื่นบนเกาะเลยเช่นเดียวกัน

เกาะหลีเป๊ะมีจุดเด่นมากมายที่ทำให้เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ นี่คือบางจุดเด่นที่น่าสนใจ:

  1. ทิวทัศน์ที่สวยงาม: เกาะหลีเป๊ะมีทะเลอันดามันที่สวยงามและน้ำทะเลใสถึงมาก คุณจะได้เพลิดเพลินกับวิวทิวทัศน์ที่เอื้อมสวยของทะเลและธรรมชาติที่ร่มรื่นที่นี่
  2. ชายหาดที่งดงาม: เกาะหลีเป๊ะมีชายหาดทรายขาวละเอียดที่เป็นที่รู้จักในทวีปเอเชีย คุณสามารถพักผ่อนบนชายหาดในที่ที่เงียบสงบหรือเล่นน้ำในทะเลที่สดชื่นได้ตามใจชอบ
  3. นันทนาการใต้ทะเล: เกาะหลีเป๊ะเป็นสถานที่ที่ยอดเยี่ยมสำหรับกิจกรรมใต้ทะเล เช่น ดำน้ำตื้นที่น่าตื่นเต้นกับปะการังและปะการังขนาดใหญ่ที่นี่ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอื่นๆ เช่น จักรยานน้ำ สเนอร์เก็ตน้ำ และการเล่นน้ำทะเลอื่นๆ
  4. อาหารทะเลอร่อย: เกาะหลีเป๊ะเป็นที่รู้จักกันดีในการเสิร์ฟอาหารทะเลสดอร่อย เมื่อมาที่นี่คุณจะได้ลิ้มรสอาหารทะเลสดๆ ที่ถูกปรุงอย่างพิถีพิถันตามสูตรท้องถิ่น
  5. การผจญภัยในธรรมชาติ: เกาะหลีเป๊ะเป็นที่ตั้งอยู่ในอุทยานทางทะเลที่มีธรรมชาติอันงดงาม คุณสามารถทำการเดินเท้าผ่านป่าชายเลนหรือท่องเที่ยวในทะเลบริเวณใกล้เคียงเพื่อสัมผัสกับความงดงามและความสงบเงียบของธรรมชาติ

เกาะหลีเป๊ะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สมบูรณ์แบบที่จะทำให้คุณมีประสบการณ์ที่จะอยากกลับมาอีกครั้ง

กิจกรรมที่นิยมทำเมื่อเดินทางมา เกาะหลีเป๊ะ

  1. เกาะตะรุเตาอยู่ห่างจากเกาะลังกาวีของประเทศมาเลเซียเพียงแค่ 6 กิโลเมตรและห่างจากท่าเรือปากบาราเพียง 30 นาที เกาะตะรุเตามีป่าไม้เป็นจำนวนมาก จุดชมวิว แหล่งชมนก น้ำตก และสถานที่ที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ที่พร้อมให้นักท่องเที่ยวได้ไปสัมผัส มีศาลเจ้าพ่อตะรุเตาไว้ให้นักท่องเที่ยวที่แวะไปเยี่ยมเยือนได้สักการะ ก่อนเดินทางไปเกาะหลีเป๊ะอีกด้วย
  2. ลอดซุ้มประตูหินเกาะไข่เป็นทางผ่านระหว่างนั่งเรือสปีดโบ๊ทไปเกาะหลีเป๊ะ โดยปกติเรือสปีดโบ๊ทจะแวะจอดให้เราได้ถ่ายภาพสวยๆ และที่สำคัญไม่พลาดที่ลอดซุ้ม เพราะมีความเชื่อว่าถ้าคู่รักลอดซุ้มประตูด้วยกันจะรักกันไปนานเท่าตราบนานที่สุด และที่สำคัญ เกาะไข่ยังเป็นสัญลักษณ์ประจำจังหวัดสตูลอีกด้วย
  3. ถนนคนเดินเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ทุกคนต้องทำเมื่อไปถึงเกาะ คือการสัมผัสบรรยากาศร้านอาหารร้านขายของกินเล่นริมทางเดิน ซึ่งมีของที่ระลึกประจำเกาะหลีเป๊ะ นอกจากนั้นยังมีการขายทัวร์ให้กับผู้ที่ต้องการดำน้ำรอบเกาะ หรือเช่าเรือเหมาลำ แล้วแต่ว่าใครจะชอบแบบไหน ที่เด็ดของเกาะหลีเป๊ะไม่ควรพลาดคือ โรตีเจ้าดังบนเกาะหลีเป๊ะ รสชาติอร่อยไม่แพบนบกเลยทีเดียว ที่สำคัญกรอบหวานมันอร่อยมาก ที่สำคัญราคาไม่แพงมากเกินไปและร้านอาหารบนเกาะหลีเป๊ะเป็นอาหารทะเลสดๆ ขึ้นจากทะเลเลย ที่สำคัญราคาตามท้องถ่วงทั่วๆไป แต่รสชาติจะสดใหม่มากอร่อย น้ำจิ้มรสเด็ดเลยทีเดียว ที่สำคัญมีร้านให้เลือกนั่งได้ตามใจชอบทุกอย่างที่กล่าวมานี้มีในถนนคนเดินเกาะหลีเป๊ะ
  4. กิจกรรมดำน้ำดูปะการัง จุดดำน้ำบริเวณรอบๆเกาะหลีเป๊ะ จุดดำน้ำช่วงไฮซีซั่นที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางกันมา คือ ดำน้ำโซนใน และ โซนนอก โดยการใช้เรือหางยาวของชาวเลบนเกาะหลีเป๊ะ เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์เลยทีเดียว เพราะน้ำใสมาก ที่สำคัญมองเห็นปะการังที่ชัดมาก แบบน้ำมันใสจนแบบเห็นไปหมดทุกอย่าง เช่น เกาะหินงาม ร่องน้ำจาบัง เกาะอาดัง – ราวี หาดทรายขาว เกาะรอกลอย เกาะหินซ้อน เกาะยาง และอีกมากมาย
  5. ดูพระอาทิตย์ขึ้น-ตก เป็นอะไรที่แบบประทับใจมาก นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมาเกาะหลีเป๊ะเพื่อที่จะพักผ่อน นอนอาบแดด นอนอ่านหนังสือริมทะเล และไม่พลาดกับการนั่งรอชมพระอาทิตย์ขึ้นที่หาดซันไรส์ เป็นชายหาดชาวประมง มีผู้คนอาศัยอยู่เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ด้านหน้าเป็นจุดจอดเรือของชาวประมง และรอชมความสวยงามของดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าที่หน้าหาดพัทยาในยามเย็น

การเดินทางไป “เกาะหลีเป๊ะ”

เส้นทางที่คุณกล่าวถึงเป็นเส้นทางที่สะดวกในการเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปยังจังหวัดสตูล โดยใช้รถยนต์ คุณสามารถเดินทางโดยใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 4 ผ่านจังหวัดประจวบคีรีขันธ์และชุมพร จากนั้นใช้ทางหลวงหมายเลข 41 เพื่อเข้าเขตจังหวัดนครศรีธรรมราชและพัทลุง จากนั้นไปยังอำเภอรัตนภูมิในจังหวัดสงขลา โดยใช้ทางหลวงหมายเลข 4 และแยกขวาไปตามทางหลวงหมายเลข 406 จากนั้นเดินทางต่อไปจนถึงจังหวัดสตูล ระยะทางประมาณ 973 กิโลเมตร

สำหรับการเดินทางโดยรถโดยสาร คุณสามารถใช้บริการรถโดยสารที่มีการเปิดให้บริการทั้งรถปรับอากาศและรถธรรมดา ระหว่างกรุงเทพฯ กับสตูล รถโดยสารจะออกจากสถานีขนส่งสายใต้ บนถนนบรมราชชนนี และใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 ชั่วโมง

สำหรับการเดินทางโดยรถไฟ คุณสามารถเดินทางได้โดยใช้ขบวนรถกรุงเทพฯ-ยะลา หรือ กรุงเทพฯ-หาดใหญ่ โดยลงที่สถานีรถไฟหาดใหญ่ จากนั้นคุณสามารถนั่งรถแท็กซี่หรือรถประจำทางเข้าสตูลระยะทางประมาณ 97 กิโลเมตร สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับกำหนดการเดินรถไฟได้ที่หน่วยบริการเดินทางการรถไฟแห่งประเทศไทย

สำหรับการเดินทางโดยทางอากาศ คุณสามารถใช้บริการของสายการบินหลายแห่งที่บริการเส้นทางนี้ คุณจะต้องเดินทางไปลงที่สนามบินหาดใหญ่ แล้วต่อรถ ซึ่งสามารถจองรถได้จากบริษัททัวร์หรือรถแท็กซี่ เพื่อเข้าสู่จังหวัดสตูลระยะทางประมาณ 97 กิโลเมตร

หากคุณมีคำถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเดินทางหรือข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาแจ้งให้ฉันทราบได้เสมอครับ